The Basic Principles Of จัดฟันรอบสอง

The Basic Principles Of จัดฟันรอบสอง

Blog Article

• ได้ผลลัพธ์การจัดฟันที่ถาวร – เมื่อคุณจัดฟันแล้ว ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ทำให้การจัดฟันรอบสองได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม และมีสุขภาพดีได้ ช่วยป้องกันโรคทางทันตกรรมอื่น ๆ ได้

ปัจจัยและเหตุผลที่จำเป็นต้องจัดฟันรอบสองมีหลากหลายอย่าง ได้แก่

คนที่จัดฟันมาแล้วแต่ลืมใส่รีเทนเนอร์ และอาจเกิดฟันเคลื่อน ฟันเก ฟันล้ม

ทำไมต้องจัดฟันรอบสอง จัดนานไหม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

การจัดฟันรอบสองแบบใสคืออะไร ควรทำดีไหม?

ถึงเวลาอัพเดทสภาพช่องปากของเราแล้ว เราจำเป็นต้องเตรียมช่องปากให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมก่อนการติดเครื่องมือ เพราะว่าหลังจากติดเครื่องมือแล้ว การดูแลรักษาสภาพช่องปากของเราจะยากขึ้นไปอีกระดับ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหารุมเร้าในช่องปากได้ หากฟันผุ ก็ต้องอุดก่อนที่เชื้อแบคทีเรียจะกัดกินเข้าไปในเส้นประสาท หากจัดฟันรอบแรกยังไม่ได้ผ่าฟันคุด แนะนำว่าครั้งนี้อย่าพลาดหละ เพราะว่าเจ้าฟันคุดตัวดีนี่แหละที่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ฟันของเราซ้อนเกได้ อีกทั้งยังทำให้เราทำความสะอาดยากด้วย

การรักษา หรืออุปกรณ์เสริมที่จำเป็นต่อการจัดฟัน

 สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องแปรงฟันวันละสองครั้งโดยใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ และควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสให้มากขึ้น เช่น นม ไข่ ข้าวกล้อง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของกระดูกและรักษาสุขภาพเหงือกและฟัน

สิ่งแรกที่ควรทำคือการเข้าปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อตรวจสอบกระดูกและรากฟันว่าสามารถจัดฟันรอบสองได้หรือไม่ ซึ่งในช่วงขั้นตอนนี้ควรจะปรึกษาทุกข้อสงสัยและความเป็นกังวลทุกอย่างกับแพทย์เพื่อการตัดสินใจที่ดีต่อไป

รีวิวจัดฟันแก้ฟันยื่น   จัดฟันแก้ฟันยื่น จัดฟันรอบสอง ริมฝีปากอูม        ปัญหาที่คนไข้ต้องการจัดฟัน  ฟันบนยื่น และแกนฟันเบี้ยว    แผนการรักษา  หลังจาก ทพ.ณัฐวัฒน์...

พูดได้ชัดเจน ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง ภาษา ไม่ทำให้เสียบุคลิกเมื่อสวมใส่

แผนการรักษาแบบ 3D ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ สำหรับขั้นตอนนี้ จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเคลื่อนฟันรอบสอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดการรักษา

มีบริการติดตามผลหลังทำการจัดฟันอย่างต่อเนื่อง

และที่สำคัญเราได้เห็นถึงความสำคัญของการมีสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว เราจึงได้จัดให้มีการเผยแพร่ความรู้ทางทันตกรรมต่างๆ รวมทั้งวิธีการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น ในเว็บไซต์ ในไลน์ ในเฟสบุ๊ค และในไอจี เพื่อให้คนไข้ได้เข้าไปศึกษาทำความเข้าใจ และนำไปใช้ในประกอบเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ